5 - BOD (Biochemical Oxygen Demand) ความต้องการออกซิเจนทางชีวเคมี

-
  • ปริมาณออกซิเจนที่จุลินทรีย์จำเป็นต้องใช้ในการย่อยสลายสารอินทรีย์
ตามปกติจุลินทรีย์สามารถย่อยสลายได้ภายใน 5 วัน (เราจึงนิยมเรียกว่า BOD5)
 
           
  • ในกรณีของสารที่ย่อยสลายได้ยาก อาจมีบางครั้งที่ย่อยสลายไม่หมด
        BOD (Biochemical Oxygen Demand) มีหน่วยเป็น mg/L (มิลลิกรัมต่อลิตร) หรือ ppm (Part Per Million)
        ในปี ค.ศ. 1884 บุคคลซึ่งมีนามว่า"ดูเปร" ได้ทำการสำรวจปริมาณของออกซิเจนที่สูญเสียไปในแม่น้ำเทมส์ในประเทศอังกฤษที่ม่ีความยาว 356 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาในการไหลจากต้นน้ำไปลงทะเล 5  วัน ระยะเวลาดังกล่าวจึงเป็นที่มาของดัชนี BOD5 ซึ่งต่อมาได้นำไปใช้กันแพร่หลายทั่วโลก ทั้งนี้อาจมีบางกรณีที่อาจใช้เวลาย่อยสลายมากกว่า 5 วัน ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบที่ปนอยู่ในน้ำ

  • ข้อแนะนำ สำหรับน้ำในทะเลหรือทะเลสาป
      ควรวัดค่าด้วย COD(Chemical Oxygen Demand) มีหน่วยเป็น mg/L (มิลลิกรัมต่อลิตร) หรือ ppm (Part Per Million) เพราะแหล่งน้ำมีการนิ่งของน้ำทำให้น้ำปนเปื้อนด้วยแพลงตอนพืชอยู่จำนวนมาก  ส่วนน้ำในแม่น้ำควรวัดด้วยค่า BOD
    สาเหตุที่ควรวัดด้วยค่า COD นั้นมาจาก เมื่อต้องทำการทดสอบเพื่อวัดค่าBODในน้ำตัวอย่างนั้น จะต้องทำการปิดกั้นแสง แพลงตอนพืชที่ปะปนอยู่ในน้ำตัวอย่างจะดูดซึมออกซิเจนในน้ำจนหมดสิ้น ทำให้การวัดค่าBOD จะออกมาผิด ไม่ตรงกันค่าที่ควรจะเป็น
    น้ำในแม่น้ำถึงแม้จะมีแพงตอนพืชปะปนอยู่บ้างก็ตาม แต่จะไม่ส่งผลให้ค่าที่วัดได้มากนัก ดังนั้นจึวมักจะใช้ BOD เป้นดัชนีการประเมิณคุณภาพน้ำแม่น้ำ


Keys
  • น้ำในทะเลหรือทะเลสาปควรวัดด้วยค่า COD ส่วนน้ำในแม่น้ำควรวัดด้วยค่า BOD
  • ในน้ำเสียมีส่วนประกอบที่ทำให้ไม่สามารถย่อยสลายได้ภายในเวลา 5 วัน
  • น้ำเสียบางชนิด แม้ค่า BOD ลดลงแล้ว แต่ค่า COD กลับไม่ลดลง

Reference
Qualita Technology Co., Ltd.  https://www.qualitagroup.net/
Ph.D. Hiromutsu Wada

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

1-Water has unique qualities. น้ำมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนใคร

-
รูปภาพ
คุณสมบัติ ที่เป็นเอกลักษณ์ของน้ำ ความหนาแน่น : 997 กก./ลบ.ม.      จุดเดือด : 100 Celsius สูตร : H2O                                   ปริมาณเชิงโมล : 18.01528 ก./โมล จุดหลอมเหลว :  0 Celsius             รหัส IUPAC : Water, Oxidance ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki โมเลกุลมีขั้วเป็นคู่ (Molecular Dipole) จึงสามารถละลายได้เกือบทุกอย่าง          ด้วยคุณสมบัตินี้ทำให้น้ำมีประโยชน์อย่างมากในการใช้เป็นสารชำระล้าง และเป็นตัวทำละลาย ในชีวิตประจำวันและกิจกรรมด้านอุตสาหกรรม พันธะขั้วคู่ของน้ำ ก่อให้เกิดการจับกลุ่ม          สสารที่มีมวลโมเลกุล18 นี้ ส่วนใหญ่อยุ่ในสถานะก๊าช แล้วทำไมน้ำจึงอยู่ในสถานะของเหลว? เนื่องจาก การเรียงตัวของออกซิเจน(O) และไฮโดรเจน(H)เป็นแบบสมมาตร H-O-H โดยทำมุมกัน 140 องศา จากนั้นจะรวมตัวกันเป็นกลุ่ม (Cluster) ด้วยพันธะไฮโดรเจน (ออกซิเจนอิออนและไฮโดรเจอิออนจับตัวกัน) ดังร...
อ่านเพิ่มเติม

4-Recycled water is economical and conserving the environment. น้ำรีไซเคิลนั้นประหยัดและรักษาสิ่งแวดล้อม

-
รูปภาพ
น้ำรีไซเคิล คือ ชื่อเดิม        เราทุกคนคุ้นเคยกับคำว่า "Recycle Water, น้ำรีไซเคิล" มานาน แต่นัยยะของคำนี้หมายถึงการนำน้ำที่ผ่านการบำบัด กลับมาใช้ซ้ำที่กิจกรรมเดิม คุณภาพน้ำเหมือนเดิมและในปริมาณเดิม แต่ในทางปฏิบัติ เราไม่สามารถทำแบบนั้นได้ครบถ้วน กล่าวคือ 1. เราไม่สามารถนำน้ำที่ผ่านการบำบัดกลับมาใช้ได้โดยตรง ต้องมีการบำบัดเพิ่ม เพื่อให้ได้น้ำที่มีคุณภาพมาใช้ซ้ำได้ 2. เราไม่สามารถนำน้ำที่ผ่านการบำบัดมาใช้ได้ทั้งหมด เพราะต้องอาศัยน้ำบางส่วนนำพาสสารที่เราไม่ต้องการออกไปจากระบบ      ด้วยเหตุผลดังกล่าว ปัจจุบันจึงมีคำเรียกใช้ซ้ำที่นำน้ำผ่านการบำบัดแล้วมาบำบัดเพิ่ม และนำมาใช้ซ้ำเพียงบางส่วนว่า(ไม่ทั้งหมด) ว่า  "Reclaimed Water, น้ำรีเคลม"   การใช้น้ำรีเคลม ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย       ในภาวะที่ทั่วโลกประสพปัญหาขาดแคลนน้ำจืด แหล่งน้ำจืดถูกปนเปื้อนมากขึ้น ทำให้น้ำใช้ในกิจกรรมของมนุษย์มีจำกัดและมีราคาแพงขึ้น การใช้น้ำรีเคลมจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากขึ้นทุกปี เพราะสามารถลดการซื้อน้ำจืดและลดปริมาณการปล่อยน้ำเสียลงในเวลาเดียวกัน การใช้น้ำรีเค...
อ่านเพิ่มเติม

2-The river has the ability to heal itself naturally. แม่น้ำมีความสามารถในการบำบัดตัวเองตามธรรมชาติ

-
เดิมที แม่น้ำสามารถบำบัด(สิ่งสกปรก/มลพิษ)ตัวเอง ได้โดยการเจือจาง, ตกตะกอน, ดูดซับและย่อยสลายทางชีวภาพ           แต่เมื่อไม่นานมานี้ มลพิษทางน้ำมีความรุนแรงมากขึ้น จึงยากที่จะฟื้นฟูให้กลับมาดังเดิม จุลินทรีย์ในแม่น้ำคือผู้มีบทบาทในการบำบัดตามธรรมชาติ                     เมื่อมีการปล่อยน้ำเสียจากภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมลงไปในแม่น้ำแล้ว น้ำเสียดังกล่าวจะถูกกระบวนการบำบัดแบบผสมผสานทั้งการเจือจาง, การดูดซับ, การตกตะกอน, และการย่อยสลายทางชีวภาพด้วยจุลินทรีย์ เนื่องจากจุลินทรีย์มีการใช้ออกซิเจนในการกำจัดของเสียในน้ำ จะทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลงไปชั่วขณะ* ในทางกลับกันพืชเซลล์เดียว(Diatom) จะมีปริมาณมากขึ้นและดูดซึมก๊าชคาร์บอนได์ออกไซด์ และปล่อยก๊าซออกซิเจนละลายกลับมาในน้ำให้เพิ่มขึ้นดังเดิม           ด้วยเหตุนี้จึงถือได้ว่ากิจกรรมการดำรงชีพของจุลินทรีย์ก่อให้เกิดการสลายตัวของสารอินทรีย์(ของเสียที่มากับน้ำเสีย)ในน้ำ ทำให้เกิดการบำบัดตามธรรมชาติ * หากจะจำกันได้ มีตัวอย่างเหตุการณ์เ...
อ่านเพิ่มเติม